วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

การกกไฟลูกแมวกำพร้า

 เลี้ยงลูกแมวกำพร้า หรือลูกแมวเด็กที่ไม่ได้มีแม่แมวคอยให้ความอบอุ่น หรือให้การเลี้ยงดูอ่ะนะคะ คงมีแต่เฉพาะพ่อแมวแม่แมวที่เป็นคนที่พร้อมจะให้ความรักและการเลี้ยงดู ให้เค้าได้อยู่รอดปลอดภัย เติบโตขึ้นเป็นแมวใหญ่และเป็นสมาชิกแสนรักของบ้านให้ได้ ดังนั้นการเรียนรู้วิธีที่จะช่วยให้ลูกแมวมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง จึงเ็ป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง บล็อกยัยกะทิวันนี้เราจะมาดูในเรื่องของการให้ความอบอุ่นแก่ลูกแมวทารกกันค่ะ


จากที่ค้น ๆ คว้า ๆ มา ได้รับข้อมูลมาว่า ลูกแมวเล็กหรือลูกแมวทารกนั้นจะยังไม่สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายได้น่ะนะคะ เนื่องจากว่าหลอดเลือดยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ หากลูกแมวแรกเกิดมีแม่แมวอยู่ด้วยก็จะได้รับความอบอุ่นจากการนอนกกของแม่ แต่หากไม่มีแม่แมว ก็ต้องได้รับความอบอุ่นทดแทนจากแหล่งต่าง ๆ อย่างเช่น การใช้ตู้อบ หรือเครื่องทำน้ำอุ่นซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับลูกสัตว์เกิดใหม่เป็นต้น
แต่สำหรับเรา ๆ ท่าน ๆ ที่ไม่ได้มีเครื่องมือแบบในคลีนิคหรือโรงพยายบาลสัตว์ที่จะใช้อนุบาลลูกแมวแรกเกิด เราก็สามารถหาแหล่งความอบอุ่นง่าย ๆ ให้กับลูกแมวได้ค่ะ โดยการนำลูำกแมวใส่กล่องจากนั้นจึงทำการอบด้วยหลอดไฟสีส้มขนาด 60 วัตต์ (หลอดไส้นะคะ ไม่ใช่หลอดประหยัดไฟ) โดยทำการส่องให้ห่างจากตัวลูกแมวประมาณ 2-3 ฟุต

โดยปกติแล้วอุณหภูมิของลูกแมวอายุ 1 วัน จะอยู่ที่ประมาณ 33-36 องศาเซลเซียสค่ะ แต่เมื่อโตขึ้นอีกนิด คืออายุราว 2-21 วัน ก็จะอยู่ราว ๆ 33.5-37.5 องศาเซลเซียส ดังนั้น เราจึงควรรักษาอุณหภูมิของร่้างกายลูกแมวให้เหมาะสม แต่ก็ควรระวังอย่าให้ความร้อนจากการอบหลอดไฟสูงเกินไป มีข้อสังเกตง่าย ๆ ค่ะ กรณีที่เลี้ยงลูกแมวหลายตัว ให้สังเกตว่า หากลูกแมวมานอนกองรวมกัน แสดงว่า ความอบอุ่นไม่พอ ให้ แต่หากลูกแมวนอนกระจายกันตัวละทิศละทาง ก็ให้สันนิษฐานว่าร้อนเกินไป


ระหว่างทำการอบหลอดไฟให้ลูกแมว อย่าลืมนำผ้าขนหนูชุบน้ำวางไว้บริเวรเหนือกล่องที่ลูกแมวอยู่ด้วยนะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ ไม่ให้แห้งเกินไป และควรบุกล่้องด้วยผ้าห่มหรือผ้าขนหนูเพื่อให้ลูกแมวสามารถรักษาอุณหภูมิร่างกายได้สม่ำเสมอ และยังช่วยเรื่องการเคลื่อนไหวและพัฒนาการของลูกแมวด้วยค่ะ
เรียบเรียงข้อมูลจาก yimwhan.com/board/show.php?user=wimzaa&Cate=6&topic=3
bloggang.com/viewdiary.php?id=wachira&month=09-2007&date=26&group=3&gblog=48

credit...............http://meowkati.blogspot.com

คู่มือการเลี้ยงแมวกำพร้า

 

คู่มือการเลี้ยงแมว 

การดูแลลูกแมวกำพร้า

    เมื่อแม่แมวคลอดลูกแล้วไม่เลี้ยง ไม่ดูแล หรือมีน้ำนมไม่เพียงพอ เจ้าของก็ไม่ต้องตกใจเราสามารถดูแลลูกแมวแทนแม่แมวได้เอง โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
  1. ลูกแมวแรกเกิดจะยังไม่ลืมตา ไม่ได้ยินเสียง และไม่ขับถ่ายเอง เราต้องช่วยกระตุ้น ซึ่งเป็นการเลียนแบบการเลียของแม่แมว โดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆ ถูบริเวณอวัยวะเพศและรูทวารเพื่อกระตุ้นให้ขับถ่าย ทำทุก 2 ชั่วโมงหลังจากป้อนนม
  2. น้ำนม มีสารอาหารที่จำเป็นในช่วงวัยเจริญเติบโตของลูกแมว แต่ห้ามป้อนนมวัว เพราะลูกแมวไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมวัวได้ดีพอ ทำให้มีโอกาสท้องเสียและท้องอืดจากนมไม่ย่อยได้ ควรใช้นมแพะ หรือนมสำเร็จรูปสำหรับแมวที่ไม่มีแลคโตส เช่น KMR มีทั้งแบบผงและแบบน้ำ ปริมาณการให้ตามอายุและน้ำหนักตัว อ้างอิงจากนมชนิด KMR ดังตารางนี้
    อายุ
    (สัปดาห์)
    น้ำหนักตัว
    (กรัม)
    ปริมาณน้ำนมต่อวัน
    (ml)
    จำนวนครั้งต่อวัน
    150-115326-8
    2115-220564-6
    3220-340803-4
    4340-4501043
    1. ลูกแมวจะลืมตาตอนอายุ 8 วันและลืมตาเต็มที่อายุ 14 วัน และเริ่มอย่านมตอนอายุ 4 สัปดาห์ สามารถให้กินอาหารเปียกหรืออาหารเม็ดนิ่มๆ และสามารถฝึกการใช้ทรายแมวได้
    2. สำหรับนม KMR แบบน้ำหลังเปิดแล้วเก็บในตู้เย็นได้นาน 24 ชั่วโมง ส่วนแบบผงหลังเปิดแล้วสามารถเก็บซองไว้ในตู้เย็นนาน 3 เดือน และในช่องแช่แข็งนาน 6 เดือน

    อุปกรณ์สำหรับการให้นมอาจจะเลือกเป็นขวดนมสำหรับลูกสัตว์ หรือกระบอกฉีดยา นำน้ำนมใส่ในขวดที่สะอาดแล้วอุ่นโดยการแกว่งในน้ำร้อนให้ได้อุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียส หรือตรวจสอบโดยหยดบนหลังมือเรา ให้พออุ่นๆ ไม่ร้อนเกินไป และดูว่าน้ำนมไหลออกมาจากจุกนมได้หรือไม่ สามารถขยายรู โดยใช้กรรไกรตัดจุกนมเพิ่มได้การดูแลลูกแมวที่กำพร้า ลูกแมวที่แม่ไม่เลี้ยง ไม่ใช่เป็นเรื่องยากแต่คงต้องอาศัยความรักความเมตตาที่เจ้าของมอบให้เป็นกำลังที่จะทำให้อีกชีวิตรอดและเติบโตได้ ขอเป็นกำลังใจให้แม่แมวจำเป็นทุกท่านด้วยคะ
    นำจุกนมให้ลูกแมวคาบ สังเกตการดูด ถ้าไม่ดูดให้บีบขวดนมหรือดันกระบอกฉีดยาให้มีน้ำนมหยดออกมาเล็กน้อย แล้วลูกแมวจะดูดต่อได้เอง ระวังลูกแมวสำลักนมออกทางจมูกหากดูดเร็วหรือดันกระบอกฉีดยาเร็วเกินไป ถ้ามีการสำลักหรือเริ่มมีน้ำมูกควรนำมาให้สัตวแพทย์ทำการรักษา
    สพ.ญ.กุญชรี  ประกาลัง
    แผนกอายุรกรรม, คุณหมอประจำศูนย์ธนาคารเลือด
    โรงพยาบาลบสัตว์ตลิ่งชัน



















วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

วิธีการเลี้ยงลูกแมวเบบี๋



วิธีการเลี้ยงลูกแมวเบบี๋
1. การกิน
 นมใช้นมแพะ หรือนมสำหรับลูกแมว (ได้หมดค่ะ) เราใช้นมแพะศิริชัยค่ะ มีขายที่เซเว่น ราคาขวดละ 20 บ.
อุปกรณ์ในการป้อนนม ใช้ขวดนมสำหรับลูกแมว (หาซื้อตาม โรงพยาบาลสัตว์) หรือจะใช้ไซริงขนาดเล็ก 1 ซซ. ก็ได้ค่ะ
หากต้องการให้ปลายไซริงค์นิ่ม เอาไส้ไก่จักรยานสวมที่ปลายไซริงค์ใช้แทนจุกนมได้ หรือจะไม่ใส่ก็ได้ค่ะ เค้ากินได้
(มันใส่ยากมากเลยแหละ) 
**ลูกแมวเล็ก ใช้ไซริงค์ขนาด 1 ซซ. ในการป้อนลูกแมวค่ะ**  
- ลูกแมวเด็ก อายุไม่เกิน 1 สัปดาห์ เค้าจะกินบ่อย กินทุก 2 ชม. ป้อนครั้งละ 1-2 ซซ. ในช่วงแรกเกิด
- อายุ 2 สัปดาห์ ป้อนครั้งละ 5-7 ซซ. ทุก 2 ชม.
- อายุ 3 สัปดาห์ ป้อนครั้งละ 7-10 ซซ. ทุก 3 ชม.
- อายุ 4 สัปดาห์ เริ่มหัดให้กินอาหารเปียก และอาหารข้น ยังคงป้อนนมอยู่ค่ะ
(วิธีการทำอาหารข้นดูที่นี่เลยค่ะ "ทำอาหารปั่นให้ลูกแมวเบบี๋" ) https://rakmaw3.blogspot.com/2019/04/blog-post_20.html

หมายเหตุ   หากใช้ขวดนม ควรจะขยายรูของจุกนมให้กว้างขึ้น ทดสอบโดย เมื่อใส่นมลงในขวดและปิดจุกนมแล้ว  เมื่อคว่ำขวดลง นมต้องสามารถไหลออกจากรูของจุกนมได้ เป็นหยดที่ค่อนข้างถี่
2. ขับถ่าย
หลังป้อนนม ให้กระตุ้นการขับถ่าย โดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่น เช็ดที่ก้นเค้า
หรือจะใช้ทิสชูแห้งๆ ก็ได้ค่ะ ถ้าใช้ทิสชู วิธีการกระตุ่นให้ใช้วิธีแตะถี่ๆ ที่ก้นลูกแมว (ไม่ควรถูไปมา เพราะจะทำให้ก้นเปื่อยค่ะ)
กระตุ้นในช่วงแรกๆ ลูกแมวจะฉี่ออกมา หากลูกแมวมีอาการเกร็งตัว แสดงว่าเค้าจะอึค่ะ ให้กระตุ้นต่อไปอีก เค้าจะอึออกมา 
3. ระวังท้องอืด
ลูกแมวที่ไม่ได้กินนมแม่ มักจะมีอาการท้องอืดได้ง่าย เนื่องจากย่อยและดูดซึมนมที่ใช้ทดแทนนมแม่ได้ไม่ดีเท่านมแม่ 
ป้องกันได้โดย : ป้อนไกร์สวอเตอร์ (ยาแก้ท้องอืดสำหรับเด็ก) มีขายตามร้านขายยา โดยป้อนตัวละ 0.1-0.2 ซซ. หลังอาหารทุกมื้อ
4. ตัวช่วยย่อย
ให้ยาคูลท์ ลูกแมวตัวละประมาณ 0.2-0.3 ซซ. เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ช่วยย่อยให้ลูกแมว ป้องกันการท้องอืด และบรรเทาอาการท้องผูกได้ค่ะ ให้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
5. ลูกแมวท้องผูก
หากให้ยาคูลท์ และมีการกระตุ้นขับถ่ายแล้ว ลูกแมวไม่ถ่ายเกิน 2 วัน มีตัวช่วยค่ะ
ตัวช่วยเมื่อลูกแมวอึไม่ออก 
หม่ามี๊พาเด็กๆ ไปหาหมอ เผื่อจะมีวิธีดีๆ ที่ทำให้เด็กๆ อึได้ 
แต่น...แต๊น..ตัวช่วยของคุณหมอ คือเจ้านี่ค่ะ 
ยาสวนทวารเด็ก
หม่ามี๊ตาเหลือก ใช้ไอ้นี่สวนเด็กเลยเหรอคะ เด๋วขรี้แตร่ก...
หม่ามี๊เคยใช้กับแมวโตที่ท้องผูก แต่ไม่เคยใช้กับแมวเล็กสักที 
คุณหมอยิ้มๆ ... แล้วตัดปลายลูกสวนเทใส่ถ้วย
แล้วใช้ไซริงค์ขนาด 1 ซซ. ดูดยา แล้วฉีดปื้ดใส่ก้นน้องตัวละ 1 ซซ.
โอ้วววว....สบายมั้ยยูก  
คุณหมอบอก ตัวละแค่ 1 ซซ. พอนะครับ น้องเค้ายังเล็ก 
พร้อมทั้งสอนวิธีสวนก้นลูกแมวให้หม่ามี๊ด้วย
คุณหมอจะเอาวาสลีนทาที่ปลายไซริงค์ก่อน แล้วค่อยเสียบเข้าไป 
 ที่มา : http://akinajang.exteen.com/20090509/entry